รีวิวเกม Just Cause 4
รีวิวเกม Just Cause 4

ดำเนินต่อไปยังส่วนที่สี่จนถึงซีรีส์การระเบิดภูเขา “Just Cause 4” แม้ว่าจะดูบังคับไปหน่อย เพราะกระแสตอบรับของภาค 3 นั้นไม่ค่อยดีนัก ภาค 2 ค่อนข้างดร็อปไปนิดนึง อาจเป็นเพราะตัวเกมไม่มีความหลากหลายเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังมีปัญหาในช่วงแรกที่วางจำหน่าย ส่งผลให้เกมถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เล่นทั้งสองฝั่ง และนักวิจารณ์ แต่ไม่ว่าจะเจออุปสรรคมากแค่ไหน Square Enix ก็ไม่กลัวและเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ได้สำเร็จ ตอนแรกฉันคิดว่าจะมีความหวัง แผนกนี้ควรเป็นส่วนที่ช่วยกอบกู้ซีรีส์ให้กลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต เนื่องจากพวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อโปรโมตทั้งการปล่อยวิดีโอตัวอย่างและทั้งการปล่อยวิดีโอเกมเพลย์ ขอให้มั่นใจว่าเกมจะสนุกอย่างที่มันควรจะเป็นแต่พอเล่นไปก็เจอเรียกได้ว่าน่าผิดหวัง
เรื่องราวที่มีเหมือนไม่มีอยู่จริง
เรื่องราวของเกมดำเนินต่อจากตอนที่ 3 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ CIA มืออาชีพอย่าง Rico Rodriguez แทรกซึมเข้าไปในหมู่เกาะ Medici ตบหน้านายพลดิ ราเวลโลที่กล้านำเผด็จการมาสู่เกาะบ้านเกิดของริโก เขาได้รับงานใหม่ทันที หนึ่งในภารกิจเกิดขึ้นเมื่อเขาเดินทางไปทำธุรกิจที่เกาะโซลิส ดันได้ข่าวว่าพ่อของเขาพัวพันกับมาเฟียองค์กรอาชญากรที่อันตรายที่สุดในโลก ตอนนี้ควบคุมโดย Gabriela Morales สาวผมสั้นสุดเซ็กซี่ ดังนั้นในแผนกนี้ สิ่งที่คุณทำคือพยายามช่วยเกาะโซลิสจากมือมืด ซึ่งรวมถึงการกำจัดกลุ่มด้วย

เนื้อเรื่องฟังดูเข้มข้นไหมไอ้มันสมาธิจะบ้าถ้าคุณเล่นเกมนี้สำหรับแผนกหนึ่ง คุณจะรู้ทันทีว่าภาค 2 และ 3 ยังใช้โครงเรื่องเดียวกัน คือการหาทางติดต่อตัวเอกก่อน (ภาค 3 คือบ้านเกิด ภาค 4 คือพ่อของตัวเอก) แล้วจึงวางเกาะ เพิ่มผู้ร้าย ปล่อยภารกิจ CIA เป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด แม้ว่าคุณจะเคยเล่นฝ่ายไหนมาก่อนก็ตาม คุณจะรู้สึกว่า “มันเหมือนกับการเล่นเกมเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก” ถ้าคุณบอกว่าคุณทำได้ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน ผู้เขียนได้! แต่เกมยังจะต้องน่าสนใจเพียงพอ เกมนี้ไม่ใช่ Just Cause 4 แน่นอน

ไม่ใช่แค่เกมสำหรับชนชั้นสูง รูปแบบการเล่นของ Just Cause 4 ยังคงเหมือนเดิม หากคุณเคยเล่นภาค 2-3 มาก่อน คุณสามารถใช้ทริคต่าง ๆ ในส่วนนี้ได้ จุดเด่นของเกมเพลย์ Just Cause ที่ทุกคนจะต้องรู้จักก็คือ “A Million Star Adventure” เพราะตัว Rico เองก็ไม่ใช่สายลับ CIA ธรรมดา เขาเป็นรถถัง CIA ติดอาวุธครบมือพร้อมเดิน ระเบิดภูเขา เผาบ้านเรือน เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา ทุกวัน คุณสามารถสังหารกองทัพมาเฟียด้วยมือเดียวคุณสามารถทำลายอาวุธทางทหารที่อันตรายถึงชีวิตได้ แม้แต่เครื่องบิน คุณสามารถใช้เชือกที่แข็งแรงเพื่อบินไปในอากาศได้ และสุดท้าย คุณก็สามารถสวมชุดวิงสูทสุดเท่ที่มีเฉพาะคุณเท่านั้นที่สามารถใช้บินผ่านท้องฟ้าได้
มาว่ากันเรื่อง Grappling Hook ครับ Grappling Hook ในส่วนนี้เราสามารถใส่ลูกเล่นเข้าไปได้ จะมีอุปกรณ์เสริมอยู่ 3 ประเภท ประเภทแรกคือสายไฟธรรมดา ประเภทที่สองคือการพ่น และสุดท้ายคือเชือกที่ใช้ปล่อยลูกโป่ง Grappling Hook สามารถปล่อยวัตถุได้ถึง 10 ชิ้นพร้อมกัน ผู้เล่นหลายคนสามารถสร้างสิ่งแปลก ๆ จากเจ้านี่ได้ เช่น รถบินได้ ลูกโป่งติดตาม ตัวเร่งความเร็ว รถยนต์ , ฯลฯ ถือเป็นเรื่องสร้างสรรค์ จุดสนใจอีกอย่างของแผนกนี้คือระบบปฏิบัติการตามเนื้อเรื่อง ระบบนี้จะเป็นตัววัดว่าคุณจะต้องเผชิญสภาพแวดล้อมแบบใด เช่น Operation Thunderbarge ในสภาพแวดล้อมที่เป็นป่า มีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่าในสายฝน พิษจากทรายในสภาพแวดล้อมที่เป็นทราย นอกจากนี้ยังมีพายุฝุ่นขนาดเล็กซึ่งทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้าย แม้แต่พายุลูกใหญ่ที่พัดพาสิ่งเหล่านี้ไปทำให้เกมแตกต่างจากภาค 2-3 เล็กน้อย แต่มันไม่ได้รู้สึกเหมือนยังใหม่อยู่จริง ๆ และมันก็คุ้มค่ากับการรอคอย
กราฟิกที่แย่เกินรับไหว
ก่อนอื่นผู้เขียนเล่น PS4 Pro เลยไม่รู้ว่าแพล็ตฟอร์มอื่นเป็นอย่างไรบ้าง แต่สำหรับแพลตฟอร์มนี้ มันค่อนข้างใกล้เคียงกับคำว่า “บ้า” เพราะ Just Cause 4 เปิดตัวในปี 2018 ซึ่งเป็นปีเดียวกับเกม AAA หลายเกม แต่ภาพของเกมนั้นแย่มาก โดยเฉพาะพื้นผิวที่มีส่วนที่ซีดจางเหมือนมิลค์เชค น้ำเปล่า บอกตามตรงว่าส่วนนี้น่าผิดหวังมากนอกจากเท็กซ์เจอร์ของพื้นแล้ว เกมยังมีปัญหาเรื่องการเรนเดอร์ที่แย่มากอีกด้วย ในฉากที่เป็นป่าหรือหิมะ คุณจะไม่สังเกตเห็นอะไรเลย แต่พอออกมาดูแดดก็เห็นว่าเสีย ๆ หาย ๆ ยิ่งมองผืนน้ำรอบเกาะยิ่งร้องไห้ เพราะมันเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในเกม ฉันไม่รู้ว่าทำของแบบนี้ออกมาขายได้ยังไงในยุคนี้
ยังไม่หมดแค่นั้น การออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ของเกมยังน่าผิดหวัง ความสับสนเกี่ยวกับหน้าเมนู แผนที่ ดูไม่คุ้นเคย ปรับนิดหน่อยต้องใส่อะไรเยอะ ไม่รู้เยอะ เหมือนคน UI ไม่ศึกษาสถานการณ์จริง คนเล่นต้องการอะไร มีไอเดียแบบไหน ระหว่างเล่น ฉันมักจะมีความรู้สึกว่า “เฮ้ นายจะไม่ทดสอบอะไรหน่อยเหรอ” อยู่ในหัวของฉัน

แต่นั่นคือทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เกมยังคงรักษาแนวคิดของตัวเองในท้ายที่สุด แม้ว่าเกมที่เหลือจะดูยุ่งเหยิงก็ตาม นั่นเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกว่าเพียงพอที่จะทำให้เกมมีชีวิตชีวา เช่นถ้าภาคต่อไปรูปแบบการเล่นยังรักษาระดับเดิมไม่ได้ หรืออย่าเพิ่มอะไรใหม่ ๆ เข้าไปเลย รับรองโดนวิจารณ์เละแน่
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : เกม Steam มาใหม่ 2023
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://gamesreview.org/