รีวิวเกมSteam เกมใหม่มาแรง 2023

รีวิวเกม Overwatch 2

รีวิวเกม Overwatch 2
เรื่องราวและจุดกำเนิดของ รีวิวเกม Overwatch 2 เป็นเกมยิงปืนชื่อดัง

 รีวิวเกม Overwatch 2 เป็นเกมยิงแบบทีม 6v6 ที่พัฒนาโดย Blizzard Entertainment จุดเด่นที่สุดคือมีฮีโร่ให้เลือกมากมาย ตัวละครแต่ละตัวจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน เกมดังกล่าวเปิดตัวในปี 2559 และได้รับความนิยมอย่างมาก ผู้เล่นมีความสนใจในเรื่องนี้มาก เหตุผลก็เพราะความสนุกของเกม ตัวละครที่มีเอกลักษณ์สวยงามและน่าสนใจรวมถึงฮีโร่ที่ต้องใช้ทักษะที่แตกต่างกันทำให้เกมมีสีสันมากแต่ถึงอย่างนั้นเพราะตัวเกมขายได้กว่า 40$ ซึ่งเท่ากับประมาณ 1,200 บาทเป็นเงินไทยแน่นอนถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วจำนวนนี้อาจจะไม่สูงมากนัก แต่สำหรับภูมิภาคอื่นเช่นเราราคานี้ถือเป็นเกมที่แพงมาก ดังนั้นเกมนี้อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

 นอกจากนี้ เนื่องจากเกมใหม่ยังคงเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ฐานผู้เล่นของ “Overwatch” ก็เริ่มเล็กลงเรื่อย ๆ กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวเกมใหม่ “Overwatch 2” จนถึงปี 2022 เพื่อให้ปรับสมดุลเมตาของเกมได้ง่ายขึ้นรูปแบบเกมจะเปลี่ยนเป็น 5v5 และที่สำคัญผู้พัฒนายังได้เปิดเกมฟรีในโหมดผู้เล่นหลายคนด้วย (โหมด Single Player จะเปิดตัวในปี 2566 และเราจะตรวจสอบแยกกันอีกครั้ง) วันนี้พวกเราที่ GameFever TH จะมารีวิวเกมนี้เพื่อแจ้งให้คุณทราบ เกี่ยวกับ “Overwatch 2” 》ความแตกต่างจากภาคแรก

รูปแบบการเล่นเปลี่ยนเป็น 5v5

อย่างที่คุณทราบ จุดเปลี่ยนที่สำคัญใน Overwatch 2 ก็คือผู้พัฒนาเปลี่ยนรูปแบบทีมจาก 6v6 เป็น 5v5 เนื่องจากความสมดุลของเมตาดาต้าจะทำให้การเล่นเกมมีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงจำนวนผู้เล่นในเกมที่น้อยลงซึ่งทำให้การรักษาเป้าหมายต่าง ๆ ทำได้ยากขึ้น หากคุณมีบทบาทที่ถูกล็อค เกมจะแบ่งออกเป็น 1 แทงค์ 2 DPS และ 2 ตำแหน่งสนับสนุน ข้อดีคือเราจะเห็นกลยุทธ์น้อยลงในการยืนอยู่หลังโล่ 

เนื่องจากเหลือรถถังเพียงคันเดียว แผนที่จึงมีความหลากหลายมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ใครก็ตามที่อยากเล่นเกมโดยไม่ต้องล็อคลูกเต๋า เกมดังกล่าวยังมีโหมดคิวแบบเปิดทำให้เราสามารถเล่นได้โดยไม่ต้องล็อคดาวน์ นอกจากนี้ ในโหมดจัดอันดับ จะมีตัวเลือกในการเล่นลูกเต๋าแบบล็อคและไม่ล็อค เพียงแต่ว่าทีมจะแยกออกจากกัน

รีวิวเกม Overwatch 2
สำหรับมือใหม่อาจต้องฝึกฝนและปลดล็อคตัวละครอย่างช้า ๆ

แน่นอนว่า Overwatch มีฮีโร่มากมาย นอกจากนี้ตัวละครแต่ละตัวจะต้องใช้ความสามารถที่แตกต่างกัน เดิมทีสร้างขึ้นสำหรับผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยซื้อเกมมาก่อน ในตอนแรกเกมจะปลดล็อคตัวละครเพียง 13 ตัว และเราจะค่อย ๆ ฝึกเล่นเพื่อปลดล็อคตัวละครเพิ่ม จนในที่สุด หากคุณเล่นต่อไปตัวละครของคุณก็จะสมบูรณ์เหมือนตัวอื่น ๆ นี้เป็นเกมแรก สำหรับการเล่นจัดอันดับ คุณจะต้องชนะ 50 รอบ และเมื่อเล่นเสร็จ คุณก็คงจะพร้อมที่จะเล่นแล้ว รวมถึงการเพิ่มตัวละครใหม่ 3 ตัว ได้แก่ Queen Junker, Sojourn และ Kiriko

การปรับสมดุลฮีโร่จะลบเอฟเฟกต์สตัน DPS

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกประการหนึ่งที่ลดจำนวนผู้เล่นลงเหลือ 5v5 คือการปรับทักษะตัวละครจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาทักษะสตันต่าง ๆ ของตัวละคร DPS ลบทั้งหมด นักพัฒนาต้องการให้บรรทัดตัวละครนี้เน้นไปที่การส่งสแปมและสร้างความเสียหายเพียงอย่างเดียว ปืนของ Midea 

จะไม่แช่แข็งศัตรู แต่จะทำให้ศัตรูช้าลง หรือทักษะสตันของ Cassidy (McCree) จะกลายเป็นระเบิดแทนระเบิดแฟลช และสตันต่าง ๆ ของอาชีพอื่น ๆ ก็ยังคงอยู่ ถึงกระนั้นก็มีตัวละครบางตัวที่มีความสามารถจนต้องอ้าปากค้างเหมือนกับท่าไม้ตายของ Mei แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคา

ตัดระบบเลเวล นำกล่องของขวัญออก และเปลี่ยนให้เป็นบัตรผ่านการต่อสู้

เนื่องจากเกมนี้เล่นฟรีและระบบปล้นไอเทมเป็นปัญหาในหลายประเทศ ผู้พัฒนาจึงลบระบบออกและมุ่งเน้นไปที่การขาย Battle Pass รวมถึงระบบปรับระดับตัวละครที่ถูกกำจัดออกจากเกมโดยสิ้นเชิง แต่นี่คือการอัพเกรด Battle Pass และแต่ละฤดูกาลจะใช้เวลาประมาณ 60 วัน Battle Pass จะมี 80 เลเวล พร้อมสกินฟรีทุก ๆ 10 เลเวล รวมถึง AI ด้วย โครงการอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ไอเทมจะยังมีให้สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อ Battle Pass ในบางระดับ รวมถึงตัวละครใหม่อย่างคิริโกะ ใครก็ตามที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเกมแรกหรือซื้อ Battle Pass

 สามารถปลดล็อคได้ที่เลเวล 55 เกมนี้ยังมีระบบภารกิจอีกด้วย หากเราทำภารกิจสำเร็จ เราจะได้รับคะแนนโบนัส Battle Pass เพิ่มขึ้น จะมีภารกิจประจำวันที่ง่ายมาก เช่น ชนะหนึ่งครั้ง เล่น Flex 3 ครั้ง เป็นต้น ยังมีงานประจำเดือนอีกด้วย คุณยังสามารถรับคะแนนโบนัสเพิ่มเติมในแต่ละฤดูกาล

เพิ่มโหมดใหม่ "ดัน" แล้ว แต่โหมด "โจมตี" ถูกลบออก

ในเกมนี้ มีการเพิ่มโหมดใหม่คือโหมดพุชซึ่งทีมของเราและทีมฝ่ายตรงข้ามจะต้องแข่งขันกันเพื่อผลักหุ่นยนต์ เป็นโหมดที่สนุกสำหรับการเล่นและวัดว่าทีมใดสามารถก้าวหน้าต่อไปได้ แต่ผู้พัฒนาเลือกที่จะลบโหมด Assault ออกจาก Quick Play และ Ranked ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเล่นระดับ

 Hanamura, Anubis และ Volskaya Industrial ได้อีกต่อไป เหตุผลก็คือระดับในโหมดนี้ค่อนข้างไม่สมดุล เพราะคุณต้องพึ่งโชคและเวลามากเกินไป จากที่ผมเล่นมา โหมด Push มีความสมดุลมากกว่า เหมาะสำหรับการแข่งขันจัดอันดับและการแข่งขัน

รีวิวเกม Overwatch 2
สรุป

จากที่ผมเล่นมาต้องยอมรับว่า Overwatch 2 ก็ไม่ต่างจากภาคแรกเลย สำหรับผู้ที่ยังไม่ชอบเกมนี้ มันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกเหมือนคุณมากขึ้น แต่สำหรับคนที่เคยชอบเกมนี้แล้วเลิกเล่นแล้ว นี่เป็นโอกาสของคุณที่จะเชิญเพื่อนของคุณมาเล่นด้วยกัน เพราะถ้าเล่นเกมนี้กับเพื่อนจะสนุกกว่าเล่นคนเดียวเยอะเลย โดยส่วนตัวแล้วฉันสามารถพูดได้อย่างตรงไปตรงมาว่า Overwatch มีศักยภาพที่จะเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่าง 

Dota 2, LoL, CSGO หรือ Valorant มันแค่มีราคาแพงเท่านั้น มีรูปแบบการเล่นที่สูงมาก เราจะต้องรอดูว่า Overwatch 2 สามารถทนต่อการทดสอบเกมเหล่านี้ได้หรือไม่เนื่องจากคนในบางประเทศไม่สามารถเข้าถึงได้

จุดเด่นของเกมนี้
  • รูปแบบการเล่นยังคงสนุกสนานเช่นเคย
  • การทำให้เกมฟรีทำให้ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น
ข้อเสียของเกมนี้
  • หากคุณยังไม่ชอบ Overwatch คุณก็อาจจะไม่ชอบเช่นกัน เพราะมันแตกต่าง

อ่านเพิ่มเติม : รีวิวเกมออนไลน์

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://gamesreview.org/

ติดต่อสอบถาม และ เข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ LINE : @UFA656

โปรดยืนยันว่าคุณบรรลุข้อกำหนดด้านอายุตามกฎหมาย (18 ปีขึ้นไป) เพื่อดำเนินการต่อ