รีวิว เกม Sea of Stars PC

มาทำความรู้จัก เกม Sea of Stars (เวอร์ชั่นทดลอง) รวมเกม RPG ในตำนานไว้ในเกมเดียว
เกม Sea of Stars แฟนเกมรุ่นเก่าต้องเคยเห็น Chrono Trigger หนึ่งในเกม RPG ในตำนานแห่งยุค 90 เรียกร้องให้สร้างภาคใหม่หรือภาคใหม่ แต่ Square Enix ยังไม่ประกาศ แต่เกมย้อนยุคกำลังมาแรงในขณะนี้ ทำให้ค่ายอินดี้พยายามสร้างเกมที่คล้ายกันโดยไม่ต้องชำระกับค่ายตัวแทน
ใช้ปุ่มลูกศรขึ้น/ลงเพื่อเพิ่มหรือลดระดับเสียง
หนึ่งในนั้นคือ Star Ocean เกมอินดี้จากผู้สร้าง Messenger เกมนินจาย้อนยุคที่ประสบความสำเร็จ ผู้สร้างเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า “Star Sea” จะอิงจากตำนานของเกม 16Bit RPG เช่น “Chrono Trigger” และ “Breath of Fire” บอกตามตรงว่าเกมนี้เป็นเกมที่พยายามสร้างเวลาคลาสสิกขึ้นมาใหม่ผู้สร้างยังได้พูดคุยเกี่ยวกับการนำทีมผู้ผลิตต้นฉบับ Yasunori Mitsuda ซึ่งเป็นอดีตนักแต่งเพลงของ Square Enix ที่แต่งเพลงให้กับ Chrono Cross และ Chrono Trigger น่าสนใจมาก ล่าสุดมีเวอร์ชั่นเดโมที่สามารถเล่นได้บน Nintendo Switch ออกมาแล้ว ไม่ควรพลาดและอยากแนะนำ

กราฟิก 16 บิตดูดี
อันดับแรกที่น่าประทับใจ กราฟิกใน Star Ocean จะปรากฏในแบบ 2 มิติ มุมมองจากบนลงล่าง เหมือนกับเกมคลาสสิคในอดีตเพราะใช้พิกเซลเดียวกัน แต่ความแตกต่างคือการเคลื่อนไหวของตัวละครและศัตรูรวมถึงบอสสามารถเคลื่อนไหวได้ราบรื่นกว่าเกมก่อนหน้ามาก แต่โดยรวมแล้วดูไม่ตกยุค ยังคงเป็น กรอบสไตล์เรโทรที่ส่วนตัวชอบมาก ๆ แต่ก็มีจุดบกพร่องคือตัวเอกทั้งสามดูไม่โดดเด่นเท่าที่ควรสำหรับเพลงประกอบที่ผู้สร้างพูดถึงตั้งแต่แรกว่านักแต่งเพลงของ “Chrono Trigger” เข้าร่วมทีมก็มีบรรยากาศบางอย่าง
แน่นอนว่ามันยังคงไม่สามารถแข่งขันกับต้นฉบับได้ เพราะเท่าที่เดโมดำเนินไป ยังไม่มีเพลงธีมที่จับใจ นอกจากนี้ ปริมาณการแทรกเสียงของเกมสมัยใหม่นั้นเกิน 16Bit ดังนั้นผู้ที่ชอบความคลาสสิกอาจไม่สนใจจุดนี้มากนัก แต่โดยรวมก็ค่อนข้างดี ฟังเพลิน ๆ
RPG แบบเทิร์นเบส
รูปแบบเกมเป็นแบบ Chrono Trigger ซึ่งเป็น Turn-Based RPG ที่คุณป้อนคำสั่งเพื่อโจมตีและไม่ใช้เรียลไทม์ต้องรอ แม้จะฟังดูเชย ๆ แต่จุดเด่นก็ยังคงอยู่ เพราะเราจะพบกับศัตรูจริง ๆ ในฉากหลักโดยไม่ต้องตัดไปที่ฉากต่อสู้ คำสั่งที่จะทำให้เกมรวดเร็วมากและผู้เล่นจะต้องเลือกตัวละครที่จะโจมตี หรือใช้ท่าพิเศษหรือใช้ยาเสริมความแข็งแกร่งเหมือนเกม RPG ทั่วไป สำหรับรูปแบบการเล่นหลัก มันก็เหมือนกับเกม RPG ทั่ว ๆ ไป
โดยมีดันเจี้ยน หมู่บ้าน หรือเมืองใหญ่ และแน่นอนว่าต้องมีแผนที่ด้วย ไม่ได้เพิ่มอะไรใหม่ แต่เนื่องจากยังเป็นเพียงการสาธิต จึงไม่สามารถสำรวจส่วนต่าง ๆ ของเมืองได้อย่างเต็มที่ และยังไม่มีระบบแผนที่ที่ควรรวมไว้ทั้งหมด ไม่เช่นนั้น แฟนเกมใหม่ ๆ อาจคิดว่ามันล้าสมัย
ผสมผสานกับแอ็คชั่น Mario RPG
นอกจากนี้ตัวเกมยังได้เข้าร่วมฉากแอคชั่น เพราะผู้เล่นจะสามารถกดปุ่มได้ถูกเวลาเมื่อทำการโจมตีและใช้ความสามารถขั้นสูงสุด กดปุ่มค้างไว้แล้วถ้าเรากดไปทางขวาก็จะสามารถโจมตีได้รุนแรงขึ้น รูปแบบนี้คล้าย ๆ เกม Super Mario RPG ทำได้ดี ทำให้การเล่นแบบ Turn-Based ไม่น่าเบื่อ ไม่แปลกใหม่ แต่ก็ยังทำได้ดีอีกสิ่งที่ทำให้เกมดูดีขึ้นคือการตั้งค่าดันเจี้ยนซึ่งมีวิธีการไขปริศนาที่คุณต้องเดินไปรอบ ๆ
จากนั้นจะต้องพบสิ่งของหรือกดสวิตช์เพื่อเปิดทางไปข้างหน้า แม้ว่าจะมีเพียงฉากเดียวให้เล่นในการสาธิต แต่ก็ทำได้ดีทีเดียว รวมฉากแอคชั่น เช่น กระโดดหรือปีนเขา อีกทั้งยังมีระบบทำอาหารกินเพื่อเพิ่มพลัง จับวัตถุดิบทำอาหารได้ด้วย ส่วน Final Boss ก็ยังดูธรรมดาเพราะยังไม่มีอะไรโดดเด่น ดูง่าย ๆ ต้องดูตอนปล่อยทั้งตัว

เท่าที่เกมสาธิตดำเนินไป Sea of Stars ทำได้ดีถ้าไม่ดีที่สุด แต่การเล่นเกมสามารถใกล้เคียงกับต้นฉบับ เนื่องจากมีหลายส่วนที่ต้องปรับปรุง ทั้งตัวละครที่ดูธรรมดา ไม่มีจุดเด่น และความเร็วในการเดินบนแผนที่ถือว่าช้าเกินไป ระบบแผนที่ก็ไม่รองรับ แพตช์ทั้งหมดคาดว่าจะวางจำหน่ายบน Nintendo Switch, PS4, PS5 และ PC ในวันที่ 29 สิงหาคม 2023
อ่านเพิ่มเติม : รีวิวเกมPC
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://gamesreview.org/